Office:+66 2024 9007 #100 Fax: +66 2024 9008 Mobile: + 66 9-0940-6691
1. คอนกรีตป้องกันเหล็กจากการเป็นสนิมได้อย่างไร
ตอบ จากภาพประกอบด้านล่าง ปกติเหล็กจะถูกใช้งานอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีค่า pH ประมาณ 7 – 8 และมีค่าศักย์ไฟฟ้าอยู่ในย่าน Corrosion หรือย่านการเกิดสนิม (จุด ) แต่เนื่องจากภายในคอนกรีตมีความเป็นด่างสูง (ค่า pH ประมาณ 12.6 – 13.8) ดังนั้นจุด จะเลื่อนไปทางขวาและเข้าสู่ย่าน Passivity ซึ่งเป็นย่านที่ผิวเหล็กจะเกิดออกไซด์ฟิล์มขึ้นป้องสนิม
2. อะไรเป็นสาเหตุสำคัญในการเกิดสนิมของเหล็กเสริมจนนำไปสู่การแตกร้าวของคอนกรีต้บ้าง
ตอบ การเกิดสนิมของเหล็กเสริมในคอนกรีตมักจะเกิดจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Carbon Dioxide) หรือคลอไรด์ (Chloride) แทรกผ่านตามรอยแตกหรือซึมผ่านคอนกรีตจนถึงเหล็กเสริมจนเป็นสาเหตุของการเกิดสนิม และเมื่อเหล็กเป็นสนิมจะทำให้ปริมาตรของเหล็กเพิ่มขึ้นจนดันคอนกรีตแตก ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ : จะเข้าทำปฏิกิริยากับเนื้อคอนกรีต ทำให้ความเป็นด่างของคอนกรีตลดลง ส่งผลให้ออกไซด์ฟิล์มของเหล็กถูกทำลายและไม่สามารถป้องกันสนิมได้ ความเสียหายลักษณะนี้เรียกว่า “คาร์บอเนชั่น (Carbonation)” และมักจะพบได้กับโครงสร้างที่ใช้งานมายาวนาน หรือมีระยะหุ้มคอนกรีตไม่เพียงพอ คลอไรด์ : ปัญหาสนิมจากคลอไรด์พบได้บ่อยกว่า โดยเราจะพบเห็นอาคารหรือโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กในพื้นที่ชายฝั่งทะเล พื้นที่น้ำกร่อย หรือพื้นที่ดินเค็ม เกิดปัญหาปูนแตกชำรุดเพราะเหล็กเสริมเป็นสนิม อันเนื่องมาจากคลอไรด์แพร่ผ่านคอนกรีตเข้าไปทำลายออกไซด์ฟิล์มของเหล็กได้อยู่ทั่วไป
3. Concrete Anode คืออะไร
ตอบ Concrete Anode คือ สังกะสีกันกร่อน (Zinc Anode) ที่ถูกห่อหุ้มด้วยมอร์ตาร์ผสมพิเศษที่มีความเป็นด่างไม่น้อยกว่า 14 (pH ≥ 14) เพื่อกระตุ้นให้ Zinc Anode สามารถจ่ายกระแสได้อย่างมีประสิทธิภาพและต่อเนื่องเพื่อป้องกันสนิมให้กับเหล็กเสริมภายในคอนกรีต (Steel Reinforced Concrete)
4. การป้องกันสนิมของเหล็กเสริมโดยใช้คอนกรีตกันซึมหรือสีกันซึมมีข้อแตกต่างกับการใช้ Concrete Anode อย่างไร
ตอบ 4.1 การใช้คอนกรีตกันซึมหรือสีกันซึมเป็นการป้องกันก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หรือคลอไรด์จากภายนอกไม่ให้เข้าไปทำให้เหล็กเป็นสนิม โดยใช้คอนกรีตที่มีความทึบน้ำสูงหรือสีที่มีอัตราการซึมผ่านต่ำ แต่ในความเป็นจริงยังไม่มีคอนกรีตหรือสีชนิดใดที่สามารถกันน้ำได้ 100% และเมื่อสีหลุดร่อนหรือคอนกรีตแตกออกความชื้นก็จะสามารถแทรกผ่านเข้าไปได้จนถึงเหล็กเสริมและทำให้เกิดสนิม 4.2 การใช้ Concrete Anode เป็นการป้องกันสนิมแบบแคโทดิก (Cathodic Protection) โดยความชื้นจากภายนอก รวมถึงก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และคลอไรด์จะทำให้องค์ประกอบทั้ง 4 ของ Cathodic Protection ครบถ้วนคือ Cathode (เหล็กเสริมในคอนกรีต), Anode (Concrete Anode), Metallic Path (ลวดที่ผูกระหว่างเหล็กเสริมและ Concrete Anode) และ Electrolyte (คอนกรีตที่มีความชื้นโดยอาจจะมีการปนเปื้อนของคลอไรด์หรือเกิด Carbonation ร่วมด้วย) รวมถึงทำให้ความต้านทานทางไฟฟ้าของคอนกรีตลดลง และยังเป็นตัวกระตุ้นให้ Concrete Anode จ่ายกระแสไฟฟ้าเพื่อป้องกันสนิมของเหล็กเสริมภายในคอนกรีตด้วย ดังนั้นความชื้นจึงเป็นสิ่งสำคัญในการทำงานของ Concrete Anode ซึ่งเป็นวิธีป้องกันที่ตรงกันข้ามกับข้อ 4.1
5. สังกะสีกันกร่อน (Zinc Anode) แบบปกติสามารถใช้ติดเหล็กเสริมในคอนกรีต (Reinforced Concrete) เพื่อป้องกันสนิมได้หรือไม่
ตอบ สังกะสีกันกร่อนแบบปกติที่ไม่ถูกห่อหุ้มด้วยมอร์ตาร์ผสมพิเศษจะจ่ายกระแสได้น้อยกว่าและมีรัศมีในการป้องกันสนิมไม่มาก ดังนั้นจึงต้องติดตั้งสังกะสีกันกร่อนเป็นจำนวนมาก ซึ่งไม่เหมาะสมในการปฏิบัติจริง
6. อะไรคือข้อแตกต่างระหว่างสังกะสีกันกร่อน (Zinc Anode) ที่หุ้มด้วยมอร์ตาร์ผสมพิเศษที่มีความเป็นด่าง (Alkali Activated Cement) และที่หุ้มด้วยเจลกรด (Acid Paste)
ตอบ สังกะสีกันกร่อนที่หุ้มด้วยมอร์ตาร์ผสมพิเศษที่มีความเป็นด่างจะเริ่มจ่ายกระแสไฟฟ้าเพื่อป้องกันสนิมเมื่อมีความชื้นในโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก เพราะความชื้นจะทำให้ครบ 4 องค์ประกอบทางไฟฟ้าของระบบ Cathodic Protection คือ Anode (สังกะสีกันกร่อน), Cathode (เหล็กเสริม), Electrical Connection (ลวดผูกเหล็กเสริมของสังกะสีกันกร่อน) และ Electrolyte (ความชื้นในคอนรีต) รวมถึงสารหุ้มสังกะสีกันกร่อนเป็นมอร์ตาร์ผสมพิเศษที่มีความเป็นด่างจึงไม่ส่งผลเสียต่อความแข็งแรงและความเป็นด่างเดิมของเนื้อคอนกรีตเสริมเหล็ก สังกะสีกันกร่อนที่หุ้มด้วยเจลกรดจะเกิดปฏิกิริยาและจ่ายกระแสตลอดเวลา เพราะครบองค์ประกอบทั้ง 4 ภายในตัวเองจากเจลกรดที่เป็น Electrolyte ดังนั้นการใช้งานจึงต้องคำนึงถึงวันเดือนปีที่ผลิต รวมถึงการห่อหุ้มเจลกรดด้วยวัสดุที่มีลักษณะเป็นผ้าจึงทำให้มีโอกาสที่เจลกรดจะรั่วออกมากัดทำลายเหล็กเสริมในคอนกรีตได้ ส่วนในด้านความแข็งแรง โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กที่ติดตั้งสังกะสีกันกร่อนที่หุ้มด้วยเจลกรดก็จะสูญเสียความแข็งแรงมากกว่าโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กที่ติดตั้งสังกะสีกันกร่อนที่หุ้มด้วยคอนกรีตผสมพิเศษ
7. เราจะมีวิธีทราบได้อย่างไรว่า Concrete Anode กำลังป้องกันไม่ให้เหล็กเป็นสนิม
ตอบ จาก Poubaix Diagram ในคำถามข้อที่ 1 แสดงให้เห็นถึงหลักการทำงานของการป้องกันสนิมแบบแคโทดิก (Cathodic Protection) โดยเมื่อนำโลหะกันกร่อนไปติดตั้งกับเหล็กแล้ว จะมีผลทำให้ศักย์ไฟฟ้าของเหล็กลดต่ำลงจนเปลี่ยนสภาพจากสภาวะการเกิดสนิม (Corrosion) เป็นสภาวะที่มีภูมิต้านทานต่อการเกิดสนิม (Immunity) ในทางปฏิบัติเราใช้ 100 mV Polarization Decay เพื่อพิจารณาการเกิด Cathodic Protection กล่าวคือค่าศักย์ไฟฟ้าของเหล็กต้องลดต่ำลงไม่น้อยกว่า 100 mV เมื่อเทียบกับ Stable Reference Electrode (ปกติใช้ Saturated Copper–Copper Sulfate Reference Electrode, CSE)
8. ทำไมการพิจารณาว่าเกิด Cathodic Protection ของเหล็กเสริมในคอนกรีตจึงใช้ 100 mV Polarization Decay แทน -850 mV to SCE เหมือนกับการวัดศักย์ไฟฟ้าของเหล็กในน้ำหรือใต้ดิน
ตอบ น้ำและดินนับเป็น Electrolyte ที่ค่อนข้างมีความคงที่ แต่ในคอนกรีตขึ้นอยู่กับความชื้นซึ่งเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพอากาศ ดังนั้นจึงต้องพิจารณาว่าศักย์ไฟฟ้าของเหล็กที่ลดลงเพียงพอต่อการเกิด Cathodic Protection หรือไม่ แทนการใช้ค่าคงที่ จากรูปด้านล่างจะเห็นได้ว่าค่า On Potential, Instant Off Potential และ Final Off Potential ที่ได้จากชุดทดสอบตามมาตรฐาน ASTM G109 – 99 และจากเขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็กบริเวณปากแม่น้ำเจ้าพระยา อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ มีความแตกต่างกัน ดังนั้นจึงไม่สามารถใช้ค่าคงที่ -850 mV to SCE ในก ารพิจารณาได้
9. การทดสอบ TMP Concrete Anode มีความน่าเชื่อถือได้มากน้อยขนาดไหน เพราะทาง TMP ทำการทดสอบด้วยตนเอง
ตอบ ทาง TMP ได้ร่วมกับฝ่ายเทคโนโลยีการกัดกร่อน สถาบันนวัตกรรมเทคโนโลยีไทย-ฝรั่งเศส มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ เพื่อทำการทดสอบประสิทธิภาพของ TMP Concrete Anode และพบว่า TMP Concrete Anode สามารถป้องกันสนิมของเหล็กเสริมในคอนกรีตได้ตามมาตรฐาน NACE Standard RP0100-2000 และ ISO 12696:2012 โดยมีรัศมีในการป้องกันสนิมไม่น้อยกว่า 60 cm
10. หากเปรียบเทียบกับการซ่อมคอนกรีตแตกร้าวแบบเดิม TMP Concrete Anode มีข้อได้เปรียบหรือมีความคุ้มค่าอย่างไร
ตอบ ตารางการเปรียบเทียบการซ่อมคอนกรีตทั้ง 2 แบบแสดงได้โดยคร่าวๆ ดังต่อไปนี้
11. การติดตั้ง TMP Concrete Anode ที่ถูกต้องทำอย่างไร
ตอบ การติดตั้ง TMP Concrete Anode มีดังนี้ 11.1 วาง TMP Concrete Anode ในตำแหน่งที่เหมาะสม โดยหากเหล็กเสริมบริเวณที่ต้องการผูกลวดเป็นสนิมให้ขัดบริเวณดังกล่าวด้วยกระดาษทรายขัดเหล็กจนสะอาด 11.2 มัดลวดของ TMP Concrete Anode เข้ากับเหล็กเสริมด้วยมือหรือคีม 11.3 มัดลวดของ TMP Concrete Anode เข้ากับเหล็กเสริมให้แน่น หรือหากไม่แน่ใจควรใช้เข็มขัดโลหะช่วย 11.4 วัดความต้านทานระหว่างลวดและเหล็กเสริม โดยค่าความต้านทานควรน้อยกว่า 1 โอห์ม เพื่อให้กระแสไฟฟ้าสามารถไหลได้สะดวก (ในบางครั้งอาจจะต้องใช้กระดาษทรายขัดผิวเหล็กเสริมบริเวณที่จะวัดความต้านทานออกเล็กน้อย)